ไอคอนแห่งอาเซียน “ชนาธิป สรงกระสินธ์”
ไอคอนแห่งอาเซียน “ชนาธิป สรงกระสินธ์”
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกัปตันทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตัวรุกจอมทัพของทีมชาติไทยที่พึ่งพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์อาเซียนสมัยที่ 6 มาครองได้ พร้อมกับตำแหน่งดาวซัลโวร่วม และนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายกับฝีเท้าของเขาตลอด10ปีที่ผ่านมาเพราะชื่อของชนาธิปคงจะคุ้นหูคนไทยมาตลอดอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่กับการเล่นในไทยลีกด้วยอายุเพียง 19 ปี ที่ บีอีซี เทโรศาสน ก่อนจะแจ้งเกิดเต็มตัวในฟุตบอล ซูซูกิคัพ 2014 ที่เขาระเบิดฟอร์มในนัดชิงชนะเลิศด้วยการยิงด้วยซ้ายบอลเข้าไปอย่างสวยงามช่วยให้ไทยเอาชนะมาเลเซียไปด้วยสกอร์รวม 4-3 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายกับฝีเท้าของเขาตลอด10ปีที่ผ่านมาเพราะชื่อของชนาธิปคงจะคุ้นหูคนไทยมาตลอดอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่กับการเล่นในไทยลีกด้วยอายุเพียง 19 ปี ที่ บีอีซี เทโรศาสน ก่อนจะแจ้งเกิดเต็มตัวในฟุตบอล ซูซูกิคัพ 2014 ที่เขาระเบิดฟอร์มในนัดชิงชนะเลิศด้วยการยิงด้วยซ้ายบอลเข้าไปอย่างสวยงามช่วยให้ไทยเอาชนะมาเลเซียไปด้วยสกอร์รวม 4-3 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
จากนั้นในปี2016ได้ย้ายไปร่วมทัพกับ เอสซีจรเมืองทอง ยูไนเต็ด ยอด ที่นั่นถือเป็นอีก 1 จุดพีคของตัวเขา พาต้นสังกัดคว้าแชมป์ไทยลีกมาครองได้ และยังมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมใน เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีกกับเมืองทอง ก่อนที่ในกลางปี2017จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชนาธิปก็มาถึง เมื่อทีม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีมน้องใหม่แห่งศึกเจลีก ได้ดึงเขาไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล เขาไม่ลังเลที่จะตอบรับข้อเสนอนี้เพราะนี้คือโอกาสครั้งแรกอย่างเป็นทางการกับการไปค้าแข้งในลีกต่างแดน
ถึงแม้ว่าในประเทศไทยเขาจะเก่งกาจหรือมีชื่อเสียงสักแค่ไหนแต่การไปยังญี่ปุ่นนั้นเขาก็เหมือนกับนักฟุตบอลทั่วไปที่ไม่ได้มีความวิเศษอะไรที่นั่น เขาต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่พอสมควรพิสูจน์ตัวเองกับฟุตบอลที่นั้น ในปีแรกเขาทำได้เพียงแค่ 1 แอสซิสต์ แต่ทว่าในปี 2018 เขาได้งัดศักยภาพของตัวเองให้แฟนบอลได้เห็น เขาลงสนาม 31 นัด ยิงไป 9 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ เขากลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลซัปโปโรที่นั้น และพัฒนาฝีเท้าของตัวเองเรื่อยๆจนเป็นจอมทัพของทีมในทุกฤดูกาลถึงแม้ในช่วงหลังจะมีอาการบาดเจ็บเข้ามารบกวน
แต่ในช่วงปลายปี 2021 กับทีมชาติไทยเขาได้รับหน้าที่สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมลุยศึก ซูซูกิคัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ การมาเล่นในระดับอาเซียนฝีเท้าของชนาธิปเหมือนจะสร้างความแตกต่างให้กับทีมชาติไทยได้ โดยในรายการนี้เขายิงไปถึง 4 ประตู คว้าดาวซัลโซ ร่วมกับ ธีรศิลป์ แดงดา และคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมถึง 3 สมัย ในปี 2014 2016 และ 2020 เรียกได้ว่านาทีนี้เขาคือนักเตะที่ดีที่สุดในอาเซียน
หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจรับใช้ชาติเขาได้กลับมาพักผ่อนที่ประเทศไทยก่อนที่คืนวันที่ 6 มกราคม เวลาตี 1กว่าๆ สื่อญี่ปุ่นได้ตีข่าวการย้ายทีมของชนาธิปมายัง คาวาซากิฟรอนตาเล่ ทีมแชมป์เจลีกล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยคาดการณ์กันไว้ว่าค่าตัวของเขาในครั้งนี้อาจพุ่งทะลุเกิน100ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งนี้ถือว่าเป็นค่าตัวของนักเตะไทยที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
การย้ายไปเล่นที่นั้นจะเพิ่มโอกาสการเป็นแชมป์เจลีกให้กับตัวเขามากขึ้นเพราะฟรอนตาเล่คือทีมที่เบียดลุ้นแชมป์ในทุกๆปีและยังได้มีโอกาสเข้าไปเล่นฟุตบอลสโมสรเอเชียในรอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย เชื่อว่าคงไม่มีอะไรผิดพลาดในดีลนี้ เขาจะขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของโลกลูกหนังอาเซียนในเวลานี้ เป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของประวัติศาสตร์นักฟุตบอลไทย และด้วยอายุที่เข้าสู่ช่วงพีคของนักฟุตบอล ชนาธิป จะสร้างความสำเร็จให้แก่ตัวเขาและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้ยิ่งขึ้นไปอีกแน่นอน
ถึงแม้ว่าในประเทศไทยเขาจะเก่งกาจหรือมีชื่อเสียงสักแค่ไหนแต่การไปยังญี่ปุ่นนั้นเขาก็เหมือนกับนักฟุตบอลทั่วไปที่ไม่ได้มีความวิเศษอะไรที่นั่น เขาต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่พอสมควรพิสูจน์ตัวเองกับฟุตบอลที่นั้น ในปีแรกเขาทำได้เพียงแค่ 1 แอสซิสต์ แต่ทว่าในปี 2018 เขาได้งัดศักยภาพของตัวเองให้แฟนบอลได้เห็น เขาลงสนาม 31 นัด ยิงไป 9 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ เขากลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลซัปโปโรที่นั้น และพัฒนาฝีเท้าของตัวเองเรื่อยๆจนเป็นจอมทัพของทีมในทุกฤดูกาลถึงแม้ในช่วงหลังจะมีอาการบาดเจ็บเข้ามารบกวน
แต่ในช่วงปลายปี 2021 กับทีมชาติไทยเขาได้รับหน้าที่สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมลุยศึก ซูซูกิคัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ การมาเล่นในระดับอาเซียนฝีเท้าของชนาธิปเหมือนจะสร้างความแตกต่างให้กับทีมชาติไทยได้ โดยในรายการนี้เขายิงไปถึง 4 ประตู คว้าดาวซัลโซ ร่วมกับ ธีรศิลป์ แดงดา และคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมถึง 3 สมัย ในปี 2014 2016 และ 2020 เรียกได้ว่านาทีนี้เขาคือนักเตะที่ดีที่สุดในอาเซียน
หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจรับใช้ชาติเขาได้กลับมาพักผ่อนที่ประเทศไทยก่อนที่คืนวันที่ 6 มกราคม เวลาตี 1กว่าๆ สื่อญี่ปุ่นได้ตีข่าวการย้ายทีมของชนาธิปมายัง คาวาซากิฟรอนตาเล่ ทีมแชมป์เจลีกล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยคาดการณ์กันไว้ว่าค่าตัวของเขาในครั้งนี้อาจพุ่งทะลุเกิน100ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งนี้ถือว่าเป็นค่าตัวของนักเตะไทยที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
การย้ายไปเล่นที่นั้นจะเพิ่มโอกาสการเป็นแชมป์เจลีกให้กับตัวเขามากขึ้นเพราะฟรอนตาเล่คือทีมที่เบียดลุ้นแชมป์ในทุกๆปีและยังได้มีโอกาสเข้าไปเล่นฟุตบอลสโมสรเอเชียในรอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย เชื่อว่าคงไม่มีอะไรผิดพลาดในดีลนี้ เขาจะขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของโลกลูกหนังอาเซียนในเวลานี้ เป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของประวัติศาสตร์นักฟุตบอลไทย และด้วยอายุที่เข้าสู่ช่วงพีคของนักฟุตบอล ชนาธิป จะสร้างความสำเร็จให้แก่ตัวเขาและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้ยิ่งขึ้นไปอีกแน่นอน
ดูข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Goalstorm
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น